G Prime Filler คืออะไร สำคัญไหมต่อการอัปไซส์
หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า G Prime เวลาอ่านข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ แต่ก็ยังสงสัยว่าที่จริงแล้วมันคืออะไร และสำคัญอย่างไรต่อผลลัพธ์หลังฉีด ในบทความนี้ Reverie Clinic หมอจะมาอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า G Prime filler คืออะไร? และทำไมค่า G Prime ถึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ต้องคิดให้ดี ๆ ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ โดยเฉพาะในเคสที่ต้องการอัปไซส์ เรามาดูกันเลยครับ!
G Prime filler คืออะไร?
G Prime filler คือ ค่าทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้บอกว่าฟิลเลอร์แข็งหรือยืดหยุ่นแค่ไหนครับ พูดง่าย ๆ มันคือค่าที่เอาไว้ดูว่าเนื้อฟิลเลอร์จะคงรูป, อยู่ทรง และทนแรงกดได้ดีหรือเปล่า ถ้ายังนึกภาพไม่ออก ลองเปรียบเทียบแบบนี้ครับ
สรุปง่าย ๆ เลยครับว่า การเข้าใจเรื่องค่า G Prime ช่วยให้คุณหมอเลือกฟิลเลอร์ได้ตรงกับความต้องการของลูกค้า เช่น ถ้าอยากได้ความชัดเจน ก็ต้องใช้ฟิลเลอร์ที่มีค่า G Prime สูง แต่ถ้าอยากได้ความละมุน เติมเต็มให้ดูธรรมชาติ ค่า G Prime ต่ำก็จะตอบโจทย์มากกว่านั่นเองครับ
ทำไมค่า G Prime ถึงสำคัญกับการอัปไซส์?
เวลาพูดถึงการอัปไซส์ จุดสำคัญไม่ใช่แค่การเติมให้มากขึ้นเท่านั้นนะครับ แต่คือการทำให้ได้ ทั้งปริมาตร (Volume) และรูปทรง (Shape) ที่ดูสวย ซึ่งตรงนี้แหละที่ค่า G Prime เข้ามามีบทบาทสำคัญมาก เพราะฟิลเลอร์แต่ละชนิดไม่ได้คงรูปหรือปั้นได้เหมือนกัน
พูดง่าย ๆ เลยครับว่า การเลือกฟิลเลอร์ที่มีค่า G Prime เหมาะสม เปรียบเหมือนกับการเลือกวัสดุสำหรับงานประติมากรรม ถ้าเลือกถูกผลลัพธ์ก็จะออกมาดูดีและคงทน
ค่า G Prime สูง
ฟิลเลอร์ที่มีค่า G Prime สูง จะมีความแน่น, คงรูป และทนแรงกดได้ดี ลักษณะคล้ายดินน้ำมันเนื้อแข็ง ที่สามารถปั้นให้ได้รูปชัด ๆ เหมาะกับการอัปไซส์ เพราะมีข้อดีหลัก ๆ คือ
ค่า G Prime ต่ำ
ฟิลเลอร์กลุ่มนี้จะเนื้อนิ่ม ๆ ยืดหยุ่นสูง คล้ายเจลลี่เนื้อนุ่ม ซึ่งเหมาะกับการเติมในจุดที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ เช่น ใต้ตา ริมฝีปาก หรือร่องแก้ม แต่สำหรับการอัปไซส์จะมีข้อจำกัดคือ
ดังนั้นสำหรับการอัปไซส์ ค่า G Prime สูง จะเป็นคำตอบที่เหมาะสมกว่า เพราะช่วยให้ได้ทั้งขนาด รูปทรง และความคงทนในระยะยาวครับ
แล้วฟิลเลอร์แบบไหนเหมาะกับน้องชาย?
โดยสรุปแล้ว ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมสำหรับการเพิ่มขนาดน้องชาย ควรมีคุณสมบัติหลักดังต่อไปนี้
ความเสี่ยงถ้าไม่รู้เรื่อง G Prime ก่อนอัปไซส์
การรู้เรื่อง G Prime ก็เหมือนมีเกราะป้องกันครับ เพราะถ้าข้ามจุดนี้ไป โอกาสเจอผลลัพธ์ที่ไม่น่าพอใจหรือปัญหาที่แก้ยากก็มีสูงมาก ลองมาดูกันว่าความเสี่ยงมีอะไรบ้างที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ
ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์อัปไซส์ อยู่ได้นานแค่ไหน
โดยทั่วไปแล้ว ถ้าเลือกฟิลเลอร์คุณภาพดีที่มีค่า G Prime เหมาะสม ผลลัพธ์จากการเพิ่มขนาดน้องชายจะอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี ถือว่านานและคุ้มค่าเลยครับ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยของแต่ละคนด้วย การเข้าใจสิ่งที่มีผลต่อความคงทนของฟิลเลอร์ จะช่วยให้คุณดูแลตัวเองได้ถูกวิธี และยืดอายุผลลัพธ์ให้อยู่กับคุณได้นานที่สุด
ปัจจัยหลักที่มีผลต่ออายุของฟิลเลอร์
1. ยี่ห้อ รุ่น และค่า G Prime
ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อมีเทคโนโลยีการผลิตไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะการเชื่อมโมเลกุลของ Hyaluronic Acid (HA) ฟิลเลอร์ที่มีค่า G Prime สูงมักถูกเชื่อมแน่นกว่า ทำให้เนื้อเจลแข็งแรง สลายช้ากว่า และอยู่ได้นานกว่าครับ
2. ปริมาณที่ฉีด
ยิ่งใช้ฟิลเลอร์มากก็ยิ่งใช้เวลาสลายนานกว่า แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ ไม่ใช่ฉีดเยอะสุดเท่าที่ทำได้นะครับ เพราะเป้าหมายคือให้ได้ผลที่ดูเป็นธรรมชาติและเหมาะกับร่างกายนั่นเอง
3. ระบบเผาผลาญของร่างกาย
ร่างกายแต่ละคนเผาผลาญไม่เท่ากัน คนที่ออกกำลังกายหนักเป็นประจำหรือนักกีฬา อาจสลายฟิลเลอร์ได้เร็วกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย ตรงนี้เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ควบคุมไม่ได้ แต่แพทย์จะคำนึงถึงจุดนี้ด้วยเวลาออกแบบครับ
4. การดูแลตัวเองหลังฉีด
นี่คือสิ่งที่เราสามารถควบคุมได้โดยตรง และส่งผลชัดมากต่อความทนของฟิลเลอร์ เช่น
สรุป
สรุปง่าย ๆ เลยครับ G Prime filler คือค่าที่บอกความแข็งหรือความยืดหยุ่นของฟิลเลอร์ เป็นตัวชี้วัดสำคัญสำหรับใครที่สนใจหัตถการอัปไซส์ เพราะค่าตรงนี้จะช่วยบอกได้เลยว่าฟิลเลอร์นั้นจะ คงรูป ตั้งทรง และสร้างขนาดตามที่ต้องการได้หรือไม่ ถ้าเลือกฟิลเลอร์ที่มีค่า G Prime สูงและเหมาะสม การอัปไซส์ก็จะได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม เป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นาน
ที่ Reverie Clinic เราให้คำปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์โดยเฉพาะสำหรับการเพิ่มขนาดน้องชาย หมอปั๊มพร้อมแนะนำแบบละเอียด ช่วยเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ สนใจอัปไซส์น้องชาย ทักมาคุยกับหมอปั๊มได้เลยครับ