| |

ศึกเพิ่มขนาด ฉีดฟิลเลอร์น้องชาย หรือ ฉีดไขมันน้องชาย แบบไหนดีกว่ากัน?

Byหมอปั๊ม นพ.กิตติพัชญ์ รัศมีจารุกิตติ์
ศึกเพิ่มขนาด ฉีดฟิลเลอร์น้องชาย หรือ ฉีดไขมันน้องชาย แบบไหนดีกว่ากัน?

เทรนด์การอัพไซส์เพิ่มขนาดน้องชายกำลังเป็นที่นิยมและมาแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสารเติมเต็มสำหรับใช้เพิ่มขนาดน้องชายมีหลายประเภท โดยเฉพาะสารเหลว ที่แอบฉีดกันเองใต้ดินมีเป็นร้อย ๆ ชนิด แต่อย่าหาทำนะครับ ไม่ปลอดภัยเลยจริง ๆ  โดยสารเติมเต็มที่ได้รับการรับรองในทางการแพทย์ว่ามีความปลอดภัยและเป็นที่นิยม หลัก ๆ มีอยู่สองชนิด คือ สารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิค เอซิด หรือฟิลเลอร์ และสารเติมเต็มจากเซลล์ไขมันของตัวเอง

หลาย ๆ ท่านอาจลังเลว่า ควรใช้ฟิลเลอร์หรือไขมันดีกว่ากัน สารทั้งสองประเภทนี้มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร ในบทความนี้หมอจะเปรียบเทียบการฉีดฟิลเลอร์เพิ่มขนาดและการฉีดไขมันน้องชาย มาให้ทุกท่านศึกษาเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนทำนะครับ

ฉีดฟิลเลอร์เพิ่มขนาดคืออะไร ทำยังไง?

ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มที่ถูกนำมาใช้ฉีดปรับรูปหน้ามาอย่างยาวนาน โดยหลัก ๆ แล้ว ฟิลเลอร์ทำมาจากสารที่มีชื่อว่ากรดไฮยารูรอนิค เอซิด (Hyaluronic Acid; HA) ลักษณะคล้ายเจล สามารถอุ้มน้ำได้ดี มีความคงตัวสูง ยืดหยุ่น และปรับเปลี่ยนไปตามผิวหนังได้ดี ซึ่งคุณสมบัตินี้ทำให้ผลลัพธ์หลังใช้ฟิลเลอร์เพิ่มขนาดออกมาเป็นธรรมชาติ เรียกได้ว่าเนียนจนแฟนจับไม่ได้ ดูไม่ออกเลยว่าไปทำมา

โดยฟิลเลอร์เพิ่มขนาดน้องชาย เป็นตัวเดียวกันกับที่ใช้เติมใบหน้าครับ แต่การเติมน้องชายหมอปั๊ม เพิ่มขนาด จะเน้นเลือกฟิลเลอร์รุ่นที่เนื้อแข็ง โมเลกุลใหญ่ เพื่อให้หลังเติมใช้งานได้ดี และยิ่งโมเลกุลใหญ่ ก็ยิ่งอยู่ได้นาน เติมแล้วคุ้มค่าไปยาว ๆ เลยครับ

ฉีดไขมันน้องชายคืออะไร ทำยังไง?

ส่วนการฉีดไขมันน้องชาย จะต่างจากฟิลเลอร์เพิ่มขนาด ตรงที่ไม่มีแบบสำเร็จรูปครับ ต้องดูดมาจากร่างกายของลูกค้าเท่านั้น สำหรับผู้ชายจะไม่ค่อยมีไขมันสะสมตามร่างกาย จะมีก็ตรงท้องล่างเป็นหลัก ถ้าผอม น้ำหนักตัวน้อยยิ่งแล้วใหญ่ บางท่านลีนมาก ๆ ไขมันไม่มากพอให้ดูดไปเติมน้องชาย ก็ต้องใช้สารเติมเต็มอื่นแทน และเนื่องจากต้องใช้ไขมันของตัวเอง ลูกค้าก็เลยต้องเจ็บตัวสองรอบ คือรอบดูดไขมัน และรอบฉีดไขมันน้องชายเพื่อเพิ่มขนาดครับ

ในขั้นตอนการฉีดไขมันน้องชาย คือ หลังจากดูดไขมัน แพทย์จะนำไขมันไปปั่นคัดแยกด้วยกระบวนการพิเศษ ก่อนจะนำไปฉีดไขมันน้องชาย ซึ่งผลลัพธ์รูปทรงที่ได้ เป็นธรรมชาติใกล้เคียงกับฟิลเลอร์ แต่ไขมันที่มาจากส่วนอื่นของร่างกาย เมื่อย้ายมาอยู่ตรงน้องชาย มักจะเหลือรอดไม่เยอะมาก

ดังนั้น หลังฉีดไขมันน้องชาย เมื่อเวลาผ่านไป 6-8 เดือน หลายท่านจะประสบปัญหา คือ ขนาดน้องชายจะเล็กลงไปเกือบ 50% เพราะธรรมชาติของเซลล์ไขมันเมื่อผ่านไป 6 เดือนจะค่อย ๆ ตายจนเหลือรอดไม่มากครับ

อีกประเด็นที่หมอปั๊ม เพิ่มขนาด แนะนำพิจารณาในการฉีดไขมันน้องชาย คือ ระยะเวลาพักฟื้น เซลล์ไขมันจะใช้เวลาพักฟื้น 2-3 เดือน เนื่องจากต้องให้เวลาเซลล์ไขมันในการปรับสภาพให้เข้ากับถิ่นฐานใหม่ หากรีบนำไปใช้งาน เซลล์ไขมันที่ยังปรับสภาพได้ไม่ดี อาจจะไหลไปในจุดที่ไม่ต้องการ แล้วเซลล์เหล่านั้นอาจจะตาย ทำให้พี่ชายแปลงร่างกลับไปเป็นน้องชายไวขึ้นอีกด้วยครับ

แต่การต้องเจ็บตัวสองรอบ เพื่อนำเซลล์ไขมันของตัวเองออกมา ก็เป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้การฉีดไขมันน้องชาย เหนือกว่าการเพิ่มขนาดน้องชายด้วยฟิลเลอร์ ในด้านความปลอดภัย เพราะโอกาสแพ้ไขมันตัวเองแทบจะเป็นศูนย์ สบายใจหายห่วงในส่วนนี้ได้เลยครับ

เปรียบเทียบฉีดฟิลเลอร์เพิ่มขนาดกับฉีดไขมันน้องชาย แบบไหนดีกว่ากัน ?

ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นกันจะจะ จะพบทั้งข้อดีและสิ่งที่เป็นข้อจำกัดของทั้งการฉีดฟิลเลอร์เพิ่มขนาดและการฉีดไขมันน้องชาย ดังต่อไปนี้ครับ

ฉีดฟิลเลอร์ vs ฉีดไขมัน ต่างกันยังไง
เปรียบเทียบ ฉีดฟิลเลอร์เพิ่มขนาด ฉีดไขมันน้องชาย
จุดเด่น ฟื้นตัวไว แข็ง อยู่นาน ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูงสุด เพราะเป็นเซลล์ไขมันของตัวเอง ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
สัมผัสหลังทำ แข็ง แต่เนียนเข้ากับเนื้อผิว นิ่มกว่า และมีโอกาสเป็นคลื่นได้บ้าง
เทคนิคในการเติม เข็มทู่ เข็มทู่
ทรงน้องชายที่ได้ เป็นธรรมชาติ เป็นธรรมชาติ
ความเจ็บ เจ็บครั้งเดียว (ตอนฉีดยาชาน้องชาย) เจ็บสองครั้ง ตอนดูดไขมัน และตอนฉีดยาชาน้องชาย
ความอยู่นาน 1-3 ปี 8-12 เดือน
ระยะเวลาพักฟื้น 2-3 สัปดาห์ 2-3 เดือน และต้องพักฟื้นแผลจากการดูดไขมันด้วย
โอกาสแพ้ ต่ำ ต่ำมาก เพราะใช้เซลล์ไขมันของตัวเอง
ความปลอดภัย ปลอดภัยสูง ปลอดภัยสูง
ข้อจำกัดอื่น ๆ หากมีประวัติแพ้กรดไฮยารูรอนิค เอซิด ต้องใช้สารเติมเต็มอื่นแทน หากคนไข้ผอมมาก ไม่มีไขมัน ต้องใช้สารเติมเต็มอื่นแทน
ค่าใช้จ่าย สอบถาม Reverie Clinic สอบถาม Reverie Clinic

สรุป

จะเห็นได้ว่าทั้งการฉีดฟิลเลอร์เพิ่มขนาด และการฉีดไขมันน้องชาย ต่างมีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกันอยู่หลายประการ แต่ถ้าพิจารณาในเรื่องของราคา ความคุ้มค่า ความอยู่นาน ระยะเวลาพักฟื้น และการนำไปใช้งานได้จริงแล้ว หมอปั๊ม เพิ่มขนาด แห่ง Reverie Clinic ยังแนะนำการฉีดฟิลเลอร์เพิ่มขนาดน้องชายมากกว่าการฉีดไขมันน้องชายครับ โดยเฉพาะในแง่ของความแข็ง ระยะเวลาพักฟื้นและความอยู่นาน ฟิลเลอร์ทำในส่วนนี้ได้ดีกว่ามากครับ เพราะคงไม่มีใครแค่อยากทำให้น้องชายใหญ่ขึ้น แต่เอาไปใช้งานจริงไม่ได้ใช่มั้ยครับ

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด ไม่ซีเรียสเรื่องระยะเวลาอยู่นาน หรือเคยมีประวัติแพ้สารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิค เอซิด การฉีดไขมันน้องชาย เพื่อเพิ่มขนาด ก็ยังคงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจครับ เพราะการฉีดไขมันน้องชาย  มีความปลอดภัยสูงที่สุด เพราะใช้เซลล์ไขมันของตัวเอง โอกาสแพ้หรือมีปัญหาตามมาจึงน้อยมาก ๆ ครับ

สำหรับท่านที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมทั้งเรื่องการฉีดฟิลเลอร์เพิ่มขนาดหรือการฉีดไขมันน้องชาย หมอปั๊ม เพิ่มขนาด แห่ง Reverie Clinic ยินดีให้คำแนะนำ หากมีข้อมูลที่สงสัยเพิ่มเติมสามารถปรึกษาหมอเพิ่มเติมได้ที่ line : @REVERIEBKK หรือมาที่ ชั้น 3 เซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่พลาซ่า อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กรุงเทพมหานคร 10400 ได้เลยครับ

คำถามที่พบบ่อย

A : ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์น้องชาย สามารถอยู่ได้ประมาณ 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้และการดูแลหลังการฉีดครับ
A : ไขมันที่ฉีดเข้าไปสามารถอยู่ได้ถาวร แต่ประมาณ 30-50% ของไขมันที่ฉีดอาจถูกดูดซึมไปในช่วงแรก ซึ่งอาจต้องมีการเติมซ้ำในบางกรณี
A : ความเสี่ยงในการฉีดไขมันน้องชาย สามารถเกิดขึ้นได้ เช่น มีการติดเชื้อ การดูดซึมไขมันบางส่วน และอาการบวมในบริเวณที่ฉีดไขมัน แต่โดยรวมแล้วเป็นวิธีที่ปลอดภัย หากทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์
A : การฉีดฟิลเลอร์น้องชาย มีระยะเวลาพักฟื้นสั้นกว่า โดยสามารถกลับไปทำกิจกรรมได้เกือบจะทันที ส่วนการฉีดไขมันน้องชาย อาจใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่าเล็กน้อย เนื่องจากมีขั้นตอนการดูดไขมันร่วมด้วย
A : การฉีดฟิลเลอร์น้องชายมักมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่า เนื่องจากไม่ต้องมีขั้นตอนการดูดไขมัน ส่วนการฉีดไขมันน้องชายอาจมีราคาสูงกว่า แต่ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า
ทำไมต้องเพิ่มขนาดกับหมอปั๊ม
Post Views: 927